พระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ จังหวัดเชียงใหม่

Last updated: 6 ต.ค. 2564  |  5010 จำนวนผู้เข้าชม  | 

พระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ จังหวัดเชียงใหม่

พระมหาธาตุนภเมทนีดล
ในวาระที่กองทัพอากาศ มีอายุครบ ๗๒ ปี ในวันที่ ๒๗ มีนาคม ในปีพุทธศักราช ๒๕๓๐ นั้น จวบกับวาระมหามงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ ในวันที่ ๕ ธันวาคม        ปีเดียวกัน ข้าราชการกองทัพอากาศโดย พลอากาศเอก ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศในขณะนั้น และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ได้เห็นพ้องกันว่า สมควรร่วมใจบริจาคทรัพย์ทำบุญสร้างอนุสสารณียวัตถุขึ้นเป็นที่ระลึกวาระสำคัญของกองทัพอากาศและเฉลิมพระเกียรติน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลในศุภวาระมงคลนี้

การร่วมใจบริจาคทรัพย์ทำบุญสร้างอนุสสารณียวัตถุใดที่จะให้เจริญพระราชกุศลอันยิ่งใหญ่ สมกับวาระมหามงคลสมัยพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ รวมทั้งเพื่อเป็นการประกาศพระอิสริยยศอันยิ่งใหญ่ที่จะทรงครองราชย์มานานเกินกว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใดในวันที่ ๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๓๑ นี้ คงจะไม่มีสิ่งอื่นใดเทียบเท่าการสร้างพระบรมธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กอปรทั้งปวงอาณาประชาราษฎร์ต่างเห็นประจักษ์ด้วยเกล้าฯ ว่า นอกจากจะทรงดำรงฐานะแห่งองค์เอกอัครศาสนูปถัมภก โดยเฉพาะทรงช่วยอภิบาลบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสถาพรยิ่งกว่าในกาลรัชสมัยใดแล้ว ยังทรงเจริญพระราชศรัทธาเลื่อมใสในพระบวรพุทธศาสนาอย่างยิ่งยวดอีกด้วย ทั้งไม่แต่การถวายพุทธสักการะเป็นอามิสบูชา แม้การปฏิบัติบูชาก็ทรงมีพระราชศรัทธาบำเพ็ญภาวนาให้ทรงบรรลุและสำเร็จได้จริงจัง

การสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ของกองทัพอากาศเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล จึงเป็นวิธีเดียวที่กองทัพอากาศรำลึกว่า จะฉลองพระเดชพระคุณอันเปี่ยมล้นได้อย่างสูงสุด แม้จะยังไม่สมกับพระบรมเดชานุภาพ และพระบารมีแห่งพระมหาธรรมราชา ที่แผ่ไพศาลสุดแผ่นดินและจดแผ่นฟ้าก็ตาม สถานที่ซึ่งควรจะประดิษฐานพระบรมธาตุเจดีย์นี้ จึงควรสถิตอยู่ ณ จุดที่สูงสุดบนผืนแผ่นดินไทยที่กองทัพอากาศสามารถขึ้นไปก่อสร้างได้ เพื่อให้สมกับพระมหากรุณาธิคุณ พระมหาเมตตาธิคุณ และพระมหาบริสุทธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้สถิตอยู่สูงสุด และในดวงใจของปวงพสกนิกรทุกหมู่เหล่า

กองทัพอากาศ จึงพิจารณาเลือกยอดเขาแห่งหนึ่งบนดอยอินทนนท์ ซึ่งเป็นดอยที่มียอดสูงที่สุดของประเทศไทย เป็นสถานที่สร้างพระบรมธาตุเจดีย์ ซึ่งต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อ ตามที่กองทัพอากาศขอพระราชทานว่า "พระมหาธาตุนภเมทนีดล" แปลได้ความว่า พระสถูปเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ยิ่งใหญ่เพียงฟ้าจดดิน

 

พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ
ปีพุทธศักราช ๒๕๓๕ นับเป็นปีมิ่งมหามงคลสำหรับพสกนิกรชาวไทย ด้วยเป็นวโรกาสที่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๓๕

กองทัพอากาศ ตระหนักในพระราชจริยาวัตรของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงอุตสาหะบำเพ็ญมาโดยต่อเนื่อง นับแต่ได้ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นที่ประจักษ์แจ้งถึงความมุ่งมั่นแน่วแน่ในพระราชหฤทัยที่จะทรงจำเริญรอยพระยุคลบาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในอันที่จะอุทิศพระวรกาย พระราชหฤทัยและพระราชทรัพย์ บำเพ็ญพระราชกรณียกิจ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อาณาประชาราษฎร ด้วยพระราชหฤทัยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตาปรารถนาที่จะให้ปวงชนเป็นสุข พ้นจากความทุกข์และความยากไร้ ยามใดภัยพิบัติบังเกิดขึ้นแก่ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน ก็เสด็จพระราชดำเนินไปทรงช่วยแก้ไข ผ่อนผันบรรเทาคลาย บรรดาข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน และผู้ทำหน้าที่ป้องกันประเทศชาติ ต่างได้รับพลังใจอย่างสูงสุด พระเกียรติคุณจึงแผ่ขยาย ขจรขจายไปทั่วหล้า เป็นที่ชื่นชมเชิดชูของนานาประเทศ พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า จึงพากันปลื้มปีติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นโดยมิรู้เสื่อมคลาย

ในวโรกาสอันเป็นมหามงคลสมัยนี้ กองทัพอากาศ และประชาชนชาวไทย จึงได้ร่วมใจกันสร้าง พระมหาธาตุเจดีย์น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศล และเทิดพระเกียรติแด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ องค์พระแม่เจ้าของชาวไทยทั้งปวงบนยอดดอยอินทนนท์ เพื่อเป็นปูชนียสถานสำคัญเคียงคู่พระมหาธาตุเจดีย์ นภเมทนีดล ให้ประชาชนที่มาเยี่ยมชมและสักการะ ได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของทั้ง ๒ พระองค์ ไว้ในความทรงจำชั่วนิรันดร์

พระมหาธาตุที่ กองทัพอากาศ สร้างขึ้น น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานนามว่า"พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ" มีความหมายว่า "เป็นกำลังแห่งฟ้า เป็นสิริแห่งดิน"
ที่มา  http://www.rtaf.mi.th/rtaf-travel/jdq1.htm

 

       ในวาระที่กองทัพอากาศ มีอายุครบ ๗๒ ปี ในวันที่ ๒๗ มีนาคม ในปี พ.ศ.๒๕๓๐ และในโอกาสที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ กองทัพอากาศได้พิจารณาจัดสร้างอนุสสารณียวัตถุขึ้นเป็นที่ระลึกในวาระสำคัญของกองทัพอากาศ  และเฉลิมพระเกียรติน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล  โดยเปิดโอกาสให้ข้าราชการและประขาชนทั่วไปได้ร่วมบริจาคทรัพย์เป็นทุนก่อสร้าง  กองทัพอากาศได้พิจารณาเลือกยอดเขาแห่งหนึ่งบนดอยอินทนนท์  ซึ่งเป็นดอยที่มียอดสูงที่สุดของประเทศไทย เป็นสถานที่สร้างพระบรมธาตุเจดีย์  ซึ่งต่อมาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อว่า “พระมหาธาตุนภเมทนีดล” แปลได้ความว่า พระสถูปเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ยิ่งใหญ่เพียงฟ้าจดดิน  กองทัพอากาศได้กราบบังคมทูลเชิญ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร  สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพระมหาธาตุนภเมทนีดลบนดอยอินทนนท์  และทรงปลูกต้นกุหลาบพันปีสีแดง (ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่) ไว้เป็นที่ระลึกในการเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพระมหาธาตุนภเมทนีดลไว้ด้วย

 

พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ จัดสร้างขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๓๕  ในโอกาสที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ กองทัพอากาศได้ก่อสร้างพระมหาธาตุเจดีย์เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย และได้รับพระราชทานนามว่า “พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ” มีความหมายว่า เป็นกำลังแห่งฟ้าเป็นสิริแห่งดิน  ซึ่งยอดของพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้รับพระราชทานจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ  ในรัชกาลที่ ๙

 

 

แหล่งท่องเที่ยว
พระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และทางธรรมชาติที่จัดสร้างขึ้นบนดอยอินทนนท์ที่เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งภูมิทัศน์โดยรอบองค์พระมหาธาตุได้มีการปรับปรุงให้สวยงามและสอดคล้องกับสภาพโดยรอบ จึงมีบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติเหมาะสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาสถาปัตยกรรมของพระมหาธาตุ และผู้ที่ชื่นชอบบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติบนพื้นที่สูง  ซึ่งสถาปัตยกรรมของพระมหาธาตุแต่ละองค์ก็มีคุณลักษณะที่แตกต่างกัน  โดยได้สอดแทรกแนวคิดผ่านการใช้วัสดุและการบอกเล่าเรื่องราวทางพุทธศาสนาบนผนังภายในองค์พระมหาธาตุ นอกจากนี้โดยรอบบริเวณพระมหาธาตุทั้งสององค์ได้จัดสวนหย่อม พร้อมปลูกไม้ดอกไม้ประดับที่สวยงาม สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมชม

 

 

ที่ตั้งแหล่งท่องเที่ยว
 


 

การเดินทางมาแหล่งท่องเที่ยว
สามารถเดินทางมาโดยรถตู้เช่าทั่วไป รถสองแถวสีแดงเช่าเหมาลำหรือเช่าร่วมจากในเมืองเชียงใหม่ รถสองแถวสีเหลืองเช่าเหมาลำหรือเช่าร่วม สองจุดคือ หน้าวัดพระธาตุศรีจอมทอง และหน้าวัดน้ำตกแม่กลาง ใกล้กับด่าน ๑ ทางขึ้นดอยอินทนนท์  จากนั้นบริเวณด้านล่างมีบริการรถยนต์รับส่งนักท่องเที่ยวขึ้นบนพระมหาธาตุโดยไม่มีค่าใช้จ่าย รายละเอียดช่วงเวลาให้บริการ จุดขึ้นรถคือ อุทยาน ด่าน ๑

 

 

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้